นอกจากนี้ ปัจจัยหลักอีกประการที่ผลักดันการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในไทย คือกระแสความนิยมการใช้งานโซเชียล มีเดีย ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าคนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3.1 ชั่วโมงต่อวัน กับการออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโดยเฉลี่ย 2.6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อท่องโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นเวลาที่มากกว่าเวลาที่ใช้กับสื่ออื่น ๆ เช่น การดูโทรทัศน์
นายธีระ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณสมาร์ทโฟนจะเติบโตขึ้น แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้สมาร์ทโฟนที่ทำตลาดได้ดีนั้นเป็นรุ่นที่มีราคาไม่สูง มูลค่าโดยรวมของการซื้อขายในตลาดอาจไม่เติบโตจากปีที่แล้วมากนัก แม้ว่าจำนวนเครื่องที่จำหน่ายจะมีจำนวนมากขึ้นก็ตาม
นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์ อุตสาหกรรมไอซีทีอาวุโส จากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนไทยว่า ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 13 ล้านเครื่อง โดยได้อานิสงส์จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ สภาพตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีตัวเลือกมากขึ้น ความต้องการใช้งานโซเชียล มีเดียที่เพิ่มขึ้น และความนิยมของการทำธุรกรรมพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโมบายคอมเมิร์ ซที่มีมากขึ้น
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นมาก บริษัทผู้ผลิตสมาร์ท โฟนทยอยนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ด้วยราคาที่ลดต่ำลงส่งผลให้คนไทยหันมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่โทร ศัพท์ฟีเจอร์โฟนแบบดั้งเดิม ซึ่งฟรอสต์ ประเมินว่า ถึงสิ้นปีนี้ ยอดขายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของตลาดมือถือทั้งหมด และอีก 40% จะเป็นโทรศัพท์ชนิดฟีเจอร์โฟน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น