ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ควรเร่งดำเนินการในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ เนื่องจากเป็นช่วงราคาน้ำมันขาลง โดยเฉพาะการปรับราคาน้ำมันดีเซลที่สามารถเพิ่มอัตราเก็บเงินเข้ากองทุน น้ำมันเชื้อเพลิงได้อีก และหากไม่ต้องการให้กระทบต่อราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการ
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าควรมีการปรับเปลี่ยนกลไกระหว่างกองทุนน้ำมันฯ กับภาษีสรรพสามิต คือ เพิ่มภาษีสรรพสามิตเป็น 3 บาท/ลิตร จากปัจจุบัน 0.75 บาท/ลิตร และลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลงเหลือ 0.75 บาท/ลิตร จากนั้นหากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงก็สามารถเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ อีก 0.50 บาท/ลิตร เป็น 1.25 บาท/ลิตร ทำให้มีเสถียรภาพทั้งกองทุนและภาษี รวมทั้งไม่กระทบต่อราคาขายปลีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญพลังงาน ระบุราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่อง แนะรัฐใช้โอกาสปรับโครงสร้างพลังงานในช่วงนี้ รวมถึงเก็บเงินเพิ่มดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯ ก่อนปรับขึ้นสูงในเดือน ธ.ค. ชี้ราคาแอลพีจีหากรวมต้นทุนนำเข้า จะอยู่ที่ 29 บาท/กก.เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันขาลง โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันลงกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และมีแนวโน้มลงอีก ซึ่งส่วนตัวมองว่ารัฐควรเร่งปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี ในช่วงนี้ เพราะเดือน ธ.ค. ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: กูรู มองราคาน้ำมันขาลง แนะปรับโครงสร้างพลังงานช่วงนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น