วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เพื่อนบ้านขอเพิ่มนำเข้าแอลพีจี

848399อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ส่งออกแอลพีจีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ต้องอยู่บนพื้นฐานของปริมาณแอลพีจีในประเทศมีใช้อย่างเพียงพอด้วย ซึ่งขณะนี้ไทยต้องการใช้แอลพีจีเดือนละ 6.13 แสนตัน ผลิตแอลพีจีได้เดือนละ 4.8 แสนตัน ที่เหลือต้องนำเข้าเดือนละ 1.33 แสนตัน ซึ่งการส่งออกแอลพีจี ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นการให้ความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้แอลพีจีประเทศ ซึ่งปริมาณที่ขอนำเข้าแอลพีจีเพิ่มจากไทยก็ไม่มาก และเป็นการซื้อขายในราคาตลาดโลก

“ขณะนี้ การให้โควตาส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาวและเมียนม่าร์ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐที่มีมานานแล้ว แต่ไม่ใช่จำนวนที่มาก เพียงแต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการขอเพิ่มปริมาณนำเข้า ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจมาจากความเข้มงวดของฝั่งไทยในเรื่องการหิ้วถังแอลพี จีข้ามแดนมากขึ้น เพราะแอลพีจีของไทยถูกกว่าประเทศอื่น ๆ จากการที่รัฐชดเชยราคาไว้”นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า สปป.ลาวและเมียนม่าร์ ได้ยื่นหนังสือมายังกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อขอเพิ่มปริมาณการนำเข้าก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ครัวเรือนจากไทยเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ มีมาตรการเข้มงวดในการลักลอบขนถังแอลพีจีข้ามประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณถังแอลพีจีที่จำหน่ายในแต่ละประเทศมีไม่เพียงพอโดย สปป.ลาว ขอนำเข้าแอลพีจี ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากเดิมเดือนละ 15 ตัน เป็นเดือนละ 150 ตัน ขณะที่เมียนม่าร์ ขอนำเข้าเดือนละ 240 ตัน เนื่องจากทั้ง2ประเทศ ไม่สามารผลิตแอลพีจีได้ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด

“ที่ผ่านมาชายแดนไทยเข้มงวดกับการ ลักลอบขนส่งถังก๊าซฯเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่เป็นการขนเข้ามาใช้ในครัวเรือน แม้จะไมใช่การลักลอบ เพื่อนำมาจำหน่ายทางการค้าโดยตรง แต่ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย เพราะราคาแอลพีจีฝั่งไทยถูกกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะรัฐบาลไทยตรึงราคาไว้ โดยปัจจุบันราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนของไทยราคาก.ก.ละ 22.63 บาท ส่วนลาว47.20 บาท เมียนม่าร์ 42 บาท กัมพูชา 40.79 บาท และเวียดนาม 48.96 บาท”

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: เพื่อนบ้านขอเพิ่มนำเข้าแอลพีจี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น